เด็กอายุ 5 - 14 ปี มักเสี่ยงกับการจมน้ำจากแหล่งน้ำในชุมชนใกล้บ้าน เช่น แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร คลอง หนอง บึง
การป้องกันจมน้ำในเด็กโต (อายุ 5 - 14 ปี)
ลอยตัว : สอนให้เด็กลอยตัวในน้ำได้
ชูชีพ : ต้องสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งที่โดยสารเรือ หรือเดินทางทางน้ำ
การช่วยเหลือ : ห้ามกระโดดลงไปช่วยเด็ดขาด ให้ช่วยเหลือคนตกน้ำโดยการ ตะโกน โยน ยื่น คือ
- ตะโกนขอความช่วยเหลือ
- โยนสิ่งของที่ลอยน้ำได้ให้คนตกน้ำจับเพื่อช่วยในการลอยตัว เช่น ถังแกลลอน ขวดน้ำ ห่วงชูชีพ
- ยื่นวัสดุให้คนตกน้ำตับเพื่อช่วยเข้าฝั่ง เช่น ไม้ เข็มขัด เสื้อ กางเกง ผ้าขาวม้า เป็นต้น
ปฐมพยาบาล
- เมื่อช่วยคนจมน้ำมาแล้วห้ามจับคนจมน้ำพาดบ่า ให้ช่วยโดยการจับคนจมน้ำนอนบนพื้นราบ แห้ง และแข็ง
- ตรวจดูว่ารู้สึกตัวหรือไม่โดยใช้มือทั้ง 2 ข้างจับไหล่ เขย่า พร้อมเรียกดังๆ
- กรณีรู้สึกตัว : เช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้า ห่มผ้าเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และนำส่งโรงพยาบาล
- กรณีไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนอง ให้ช่วยหายใจ โดยเปิดทางเดินหายใจ กดหน้าผาก เชยคาง เป่าปากโดยวางปากครอบปากผู้ป่วย บีบจมูก เป่าลมเข้า ให้หน้าอกผู้ป่วยยกขึ้น (เป่าปาก 2 ครั้ง) และทำการกดนวดหัวใจ (CPR) โดยวางส้นมือขนานกับแนวกึ่งกลางหน้าอก(กึ่งกลางหัวนมทั้ง 2 ข้าง) ประสานมือ แขนตั้งฉาก- กดหน้าอกให้ยุบ 1 ใน 3 ของความหนาของหน้าอก ความเร็ว 100 ครั้ง ต่อนาที นวดหัวใจ 3 ครั้ง สลับกับเป่าปาก 2 ครั้งทำไปจนกว่าผู้ประสบภัยจะรู้สึกตัวและหายใจเองได้
- จับผู้ป่วยนอนตะแคงข้างศีรษะหงายไปข้างหลัง เพื่อให้น้ำไหลออกทางปากใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความอบอุ่น งดน้ำงดอาหาร และนำส่งโรงพยาบาล
จัดการแหล่งน้ำเสี่ยง : สร้างรั้ว ติดป้ายเตือน จัดให้มีอุปกรณ์สำหรับช่วยคนตกน้ำ เช่น ถังแกลลอน ขวดน้ำหรือไม้
ข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข